ใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนดี


 เมื่อพูดถึงญี่ปุ่นแล้วสิ่งที่ผู้คนนึกถึงนอกจากซากุระก็ต้องใบไม้แดงนี่แหละ! ลองหลับตาแล้วนึกภาพสีเขียวของมอสที่ขึ้นตามพื้นให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นสบาย ตัดด้วยสีแดงฉานของใบเมเปิ้ลและสีเหลืองทองของใบแปะก้วย แล้วคลอด้วยเสียงไหลเอื่อยๆของน้ำในลำธาร นั่งจิบชาเขียวไปพลาง นี่คือภาพในความทรงจำสำหรับฤดูใบไม้ร่วงของชาวญี่ปุ่น                            ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบกันครับ

อันดับที่ 5 吉野山
               
                      จากจุดสูงสุดของภูเขาโยชิโนะนั้นเราจะมองเห็น เทือกเขาโอมิเนะที่ทอดตัวยาวกว่า 8 กิโลเมตรทางทิศใต้ของจังหวัดนารา ช่วงปลายเดือนมีนาถึงปลายเดือนเมษาทิวทัศน์นั้นจะเต็มไปด้วยดอกซากุระกว่า 3 หมื่นต้นบานสะพรั่ง แต่หากเดินทางมาในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือนพฤษจิกายนนั้นจะได้พบกับใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามจนชาวญี่ปุ่นมอบอันดับ 5 ให้เลยทีเดียว ที่เทือกเขาโอมิเนะนี้จะมีใบไม้เปลี่ยนสีอยู่สองชนิด คือ ซากุระโมมิจิและคาเอเดะโมมิจิ ซึ่งทำให้เราสามารถพบการไล่ระดับสีจากยอดเขาลงมาอีกด้วย และหากเดินทางมาในวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมของทุกปีก็สามารถเดินชมงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงที่จัดขึ้นภายในเมืองได้อีกด้วย

การเดินทาง : เริ่มจากสถานี Yoshino เดินประมาณ 3 นาทีเพื่อขึ้นเคเบิลคาร์ไปลงที่สถานี Senbonguchi จากนั้นก็ต่อโรปเวย์เพื่อขึ้นไปยังสถานี Yoshino San และเดินต่ออีก 40 นาทีเพื่อไปจุดชมวิวบนยอดเขา

ค่าเข้าชม : ฟรี

งานเทศกาล : เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงภูเขาโยชิโนะ ( วันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมของทุกปี )

JR Pass : JR West Rail Pass


อันดับที่ 4 秋月城跡周

                   ปราสาทอะคิทซึคิเป็นปราสาทในสมัยที่เมืองเกียวโตเป็นเมืองหลวงทำให้สามารถซึมซับบรรยากาศความคลาสสิคแบบญี่ปุ่นโบราณและยังสามารถชมใบไม้แดงรอบๆได้ในช่วงปลางเดือนพฤษจิกายนเป็นต้นไปจนถึงช่วงต้นของเดือนธันวาคม โดยบริเวณประตูทางเข้าที่เรียกว่า "黒門" นั้นจะพบทิวทัศน์สีแดงของใบไม้แดงตัดกับสีดำของประตูอย่างสวยงาม

การเดินทาง : เริ่มจากสถานี Amagi ให้ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไป Akitsuki ประมาณ 20 นาทีก็จะถึงป้าย Kyoudokanmae เมื่อลงจากรถก็เดินต่อเพียง 10 นาทีก็จะถึงปราสาทอะคิทซึคิแล้ว

ค่าเข้าชม : ฟรี

งานเทศกาล : เทศกาลจิบชาชมใบไม้แดงที่ 黒門」 ( ปลายเดือนพฤษจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคม )

JR Pass : JR Kyushu Rail Pass





อันดับที่ 3明治神宮外苑
                     
                      ภาพทิวทัศน์สองข้างทางสีทองสวยงามของต้นอิโจหรือในภาษาไทยก็คือต้นแปะก๊วยนั้นเอง โดยถนนนี้ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า เมจิจิงงูไกเอน( Meiji Jingu Gaien ) ซึ่งก็ตั้งอยู่ใกล้ๆกับศาลเจ้าเมจิที่อยู่ในย่านท่องเที่ยวชื่อดังอย่างฮาราจูกุถ้าหากเพื่อนๆเดินทางมาเที่ยวที่โตเกียวในช่วงปลายเดือนพฤษจิกายนจนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคมนั้น หากมีเวลาก็สามารถแวะมาเก็บภาพความประทับใจกันได้

การเดินทาง : รถไฟJR Chuo line มาลงที่สถานี Shinanomachi หรือสถานี Sendakaya
                      รถไฟใต้ดินสาย Ginza line หรือ Hanzomon line มาลงที่สถานี Aoyama-itchome

ค่าเข้าชม : ฟรี

งานเทศกาล : เทศกาลใบอิโจว ( ปลายเดือนพฤษจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคม )

JR Pass : 1-Day Tokyo Pass, JR Tokyo Wide Pass, Tokyo Metropolitan District Pass




อันดับที่ 2 六義園

 
สำหรับสวนริคุหงิเป็นสวนญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอย่างมากตั้งแต่สมัยเอโดะ สวนนี้นั้นสามารถเข้าชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งภายในสววนจัดแต่งด้วยต้นเมเปิ้ล 400 ต้นและต้นแปะก๊วย อีกราวๆ 560 ต้นเลยทีเดียว และมีการจัดระดับพื้นที่ทั้งเนินและสระน้ำเพื่อให้การชมใบไม้เปลี่ยนสีนั้นมีความสวยงามมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว นอกจากการชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงกลางวันแล้วตอนกลางคืนยังมีโชว์การประดับไฟภายในสวนอีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี komagome แล้วเดินต่ออีก 7 นาที

ค่าเข้าชม : 300 เยน ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป 150 เยน เด็กต่ำกว่ามัธยมต้นเข้าชมฟรี

งานเทศกาล : เทศกาลประดับไฟ ( ปลายเดือนพฤษจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคม )

JR Pass : 1-Day Tokyo Pass, JR Tokyo Wide Pass, Tokyo Metropolitan District Pass



อันดับที่ 1 メタセコイア並木の紅葉
         
                          และแล้วก็มาถึงอันดับหนึ่งของเราแล้วนั้นก็คือ อุโมงต้นสน ซึ่งถนนเส้นนี้นั้นมีต้นส้นที่ทอดยาวกว่า 2.4 กิโลเมตรโดยที่เมื่อมองแล้วจะพบว่าแนวต้นสนนั้นมีการเรียงตัวกันอย่างสมมาตรและนยังมีภูเขาโนซากะเป็นฉากหลังอันสวยงามเต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติโดย ทำให้ถนนเส้นนี้นั้นถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 100 ถนนต้นไม้ของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆนั้นยังมีวัดอิชิยามะ (石山寺) ซึ่งมีความเก่าแก่และมีสวนภายในวัดที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปตามฤดูกาล โดยในฤดูใบไม้ร่วงจะมีการจัดงานประดับไฟในตอนกลางคืนอีกด้วย

การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Makino แล้วนั่งทาวน์บัสสาย Makinokougenไปอีก 20 นาทีและลงที่ Makino Pick Land

ค่าเข้าชม : ฟรี

งานเทศกาล : เทศกาลประดับไฟ ( ปลายเดือนพฤษจิกายน ถึง ต้นเดือนธันวาคม )

JR Pass : Kansai Tourist Pass


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขนมอร่อยมาแรง!ฮอกไกโด